ไทเลอร์ แฮร์โร แสดงความมั่นใจ หลังต้องการพิสูจน์ศักยภาพตนเองมากกว่านี้ กับความเหมาะสมในการก้าวขึ้นมาเล่นเป็นตัวจริง มากกว่าตัวสำรองใน ไมอามี ฮีท
ไทเลอร์ แฮร์โร ดาวรุ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามองสำหรับไทเลอร์ แฮร์โร หลังเข้ามาสู่เส้นทาง นักบาส nba ในช่วงปี 2019 กับ ไมอามี ฮีท แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเท่าที่ควรนัก จนกระทั่งล่าสุดหลังจากนั่งสำรองมานาน 3 ปี ในวัย 22 เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยความในใจกับสื่อ ข่าวบาสเกตบอล เชื่อว่าตนเองจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงได้แล้ว หลังได้รับการโหวตว่าเป็นผู้เล่นสำรองยอดเยี่ยม
ไทเลอร์ แฮร์โรเหมาะสมจริงหรือกับการเป็นผู้เล่นไลน์อัพแรก
ในฤดูกาลที่ผ่านมาไทเลอร์ แฮร์โรมีโอกาสลงคอร์ทเพียง 10 เกม จาก 66 โดยเจ้าตัวมีสถิติในการทำคะแนน 20.7 แต้ม และมีความแม่นยำถึง 86 เปอร์เซนต์ โดยในฤดูกาลนี้เขายังสามารถทำแอสซิสต์ไปได้ 4 ครั้ง และ 5 รีบาวด์ ซึ่งแม้ในฤดูกาลนี้ฮีทจะเป็นทีมที่น่าจับตามอง หลังรั้งจ่าฝูงของ ตารางบาสเกตบอล NBA ฝั่งตะวันออก ซึ่งแม้จะพลาดท่าให้กับ บอสตัน เซลติคส์ ไปอย่างน่าเสียได้ ในเกม เพลย์ออฟ NBA 3-4 ก็ตาม แต่ทีมก็พัฒนาศักยภาพได้ยอดเยี่ยมกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด หากมองถึงความเหมาะสมของไทเลอร์ แฮร์โรในการเป็นผู้เล่นตัวจริงในซีซั่นหน้า อาจจะเป็นไปได้ยาก ในการ วิเคราะห์บาส เขาต้องพิสูจน์ตนเองให้หนักกว่านี้ กว่าจะมีความสามารถเทียบเท่ารุ่นพี่ในทีมอย่าง จิมมี่ บัตเลอร์, แบม อาเดบาโย หรือ ไคล์ โลว์รี ในตำแหน่งพอยต์การ์ดเดียวกัน ซึ่งโลว์รีและวินเซนต์ในตำแหน่งเดียวกับแฮร์โร ล้วนแล้วมีอายุและประสบการณ์ที่มากกว่า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะถูกดองเป็นผู้เล่นสำรองแม้จะทำผลงานได้ดีก็ตาม นอกจากนี้การแข่งขันในเกมเพลย์ออฟ เจ้าตัวยังทำผลงานได้น่าผิดหวัง กับเกมสุดท้ายโดยที่ไม่สามารถทำแต้มและรีบาวด์ได้เลย ทำได้เพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้น ในการลงเล่น 7 นาที สิ่งนี้เองยิ่งแสดงความไม่มั่นใจของสโมสรต่อแฮร์โร ด้วยประสบการณ์และอายุยังน้อย เป็นไปได้ที่เจ้าตัวอาจจะได้นั่งสำรองอย่างน้อย 1-2 ซีซั่น
ไทเลอร์ ลั่น อยากเป็นผู้เล่นตัวจริง
ไทเลอร์ แฮร์โรได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมอยากที่จะเป็นหนึ่งในตัวจริง เพราะครั้งนี้มันเป็นฤดูกาลที่ 4 ในเส้นทางอาชีพแล้ว ผมคิดว่าผมเหมาะสมพอ” ก่อนที่จะกล่าวปิดท้ายว่า “ผมต้องเข้มแข็งกว่านี้ในหลาย ๆ เกมที่มีโอกาส หลังจากพลาดในเกม เพลย์ออฟ บาส ที่ผ่านมา” อย่างไรก็ตามในซีซั่นหน้าจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของเจ้าตัวหลังหมดสัญญา จึงต้องมาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถขึ้นมาเป็นหนึ่งในไลน์อัพแรกตามที่หวังไว้ได้หรือไม่ หรือจะไปเฉิดฉายกับสโมสรอื่นแทน